อิสราเอลเชียร์ 'ทรัมป์' ให้ได้โนเบลสันติภาพ หลังประกาศข้อตกลงหยุดยิงกาซา
อิสราเอลเชียร์ทรัมป์ให้ได้โนเบลสันติภาพ ขณะที่นอร์เวย์เตรียมพร้อมรับมือหากทรัมป์กลั่นแกล้งถ้าไม่ได้โนเบล
ชมภาพ เกษตรกรชาวอิสราเอลได้ไถไร่เป็นข้อความวา "โนเบล ฟอร์ ทรัมป์" หรือ ทรัมป์ ควรได้รางวัลโนเบล (Nobel 4 Trump) หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กดดันอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจนสามารถตกลงกันได้ในข้อตกลงที่จะปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมดที่ถูกกลุ่มอิสลามิสต์จับตัวไว้ในฉนวนกาซา และยุติสงครามในดินแดนชายฝั่ง
ทั้งนี้ รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปีนี้มีกำหนดประกาศในวันศุกร์ 10 ตุลาคม ที่กรุงออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์ ผู้นำกัมพูชา อิสราเอล และปากีสถาน ต่างกล่าวว่าพวกเขาได้เสนอชื่อทรัมป์แล้ว อย่างไรก็ตาม การเสนอชื่อทรัมป์นั้น เกิดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน หลังจากผ่านวันที่ 31 มกราคมมาแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้สิทธิ์ในการรับรางวัลในปี 2025 ได้
ขณะเดียวกัน “เดอะ การ์เดียน” สื่ออังกฤษ รายงานว่า นักการเมืองในนอร์เวย์ออกมาเตือนรัฐบาลให้เตรียมรับมือการตอบโต้จากสหรัฐฯ หาก โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้รับรางวัลโนเบลสันติภาพ ขณะที่คณะกรรมการยืนยันว่า พวกเขาเลือกผู้ที่จะได้รางวัลไว้ก่อนแล้ว
รายงานระบุว่า นักการเมืองนอร์เวย์ต่างเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-นอร์เวย์ หากโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้รับรางวัลนี้
ทั้งนี้ คณะกรรมการโนเบลนอร์เวย์ชี้แจงอย่างชัดเจนเมื่อวันพฤหัสบดี 9 ต.ค. 2568 ว่า พวกเขาเลือกผู้ที่จะได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ 2025 ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาแล้ว หลายวันก่อนที่อิสราเอลกับกลุ่มฮามาสจะลงนามข้อตกลงหยุดยิงระยะแรกภายใต้แผนการที่ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นผู้ผลักดัน
เมื่อพิจารณาจากกรอบเวลาและองค์ประกอบของคณะกรรมการอิสระห้าคนแล้ว ผู้เชี่ยวชาญโนเบลและผู้สังเกตการณ์ชาวนอร์เวย์ส่วนใหญ่เชื่อว่า เป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่ ทรัมป์ จะได้รับรางวัล ทำให้เกิดความกังวลภายในประเทศว่า ผู้นำสหรัฐฯ รายนี้จะตอบสนองอย่างไรต่อการถูกมองข้ามอย่างเปิดเผยเช่นนี้
โดย คีร์สตี เบิร์กสเตอ ผู้นำพรรคสังคมนิยมฝ่ายซ้ายของนอร์เวย์ และโฆษกด้านนโยบายต่างประเทศของพรรค ออกมาเตือนว่า นอร์เวย์ต้อง "เตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์" และว่าโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังนำสหรัฐฯ ไปสู่ทิศทางที่รุนแรงสุดขั้ว โจมตีเสรีภาพในการพูด มีตำรวจลับปิดบังใบหน้าลักพาตัวผู้คนกลางวันแสกๆ และปราบปรามสถาบันต่างๆ และศาล เมื่อประธานาธิบดีมีความไม่แน่นอนและมีอำนาจเบ็ดเสร็จเช่นนี้ แน่นอนว่าเราต้องเตรียมพร้อมสำหรับทุกอย่าง