เจ้าหน้าที่ด่านตรวจกิ่วทัพยั้งแม่จัน รวบหนุ่มใหญ่ชาวประจวบฯ ขับเก๋งซุกยาบ้า 1 ล้านเม็ดรอบคัน ตรวจค้นพบพกบัตรผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหวังตบตาเจ้าหน้าที่ สารภาพรับจ้างขนเข้ากรุงเทพฯ แลกค่าจ้าง 3 หมื่นบาท

.

23 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน นำโดย พ.ต.ต.ศักดิ์ชาย รีอินทร์ สวป.(ชส) สภ.แม่จัน พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.327 และทหารพราน ฉก.ทพ.31 กำลังปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่านตรวจสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมาย บริเวณด่านตรวจกิ่วทัพยั้งแม่จัน หมู่ 5 ต.แม่จัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย

.

ต่อมาได้มีรถเก๋งสีทอง หมายเลขทะเบียน สว 9080 กรุงเทพมหานคร ขับมาจากทางอำเภอแม่จัน มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองเชียงราย โดยมี นายทวีป หาญชะนะ อายุ 50 ปี ชาวตำบลวังก์พง อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นคนขับ เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ นายทวีปแสดงท่าทางมีพิรุธ ลุกลี้ลุกลน คล้ายคนเสพยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงขอทำการตรวจค้นรถอย่างละเอียด

.

จากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ต้องตะลึงเมื่อพบยาบ้าห่อประทับตราสัญลักษณ์ 999 ซุกซ่อนอยู่ทั่วคันรถ ประกอบด้วย ใต้เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลัง 83 ก้อน, หลังเบาะนั่งคนขับ 1 ก้อน, หลังเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า 1 ก้อน และซุกซ่อนอยู่ในกันชนด้านหลังอีก 15 ก้อน รวมทั้งหมด 100 ก้อน ประมาณ 1,000,000 เม็ด นอกจากนี้ยังตรวจพบ "บัตรประจำตัวผู้สื่อข่าว" หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่ง ระบุชื่อ นายทวีป หาญชะนะ พกติดตัวอยู่ด้วย

.

จากการสอบสวน นายทวีป ให้การรับสารภาพว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากนาย "ป" ให้มารับยาเสพติดดังกล่าวในพื้นที่ ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เพื่อนำไปส่งที่กรุงเทพมหานคร โดยตกลงค่าจ้างที่ 30,000 บาท และได้รับเงินล่วงหน้ามาแล้ว 20,000 บาท

.

นายทวีป ยังให้การอีกว่า ได้เดินทางมาจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อมารับของที่ชายแดนบ้านปางมะหัน ต.เทอดไทย โดยมีนายจะทอ และชายอีกคนหนึ่ง เป็นคนช่วยนำยาบ้ามาซุกซ่อนไว้ตามจุดต่างๆ ของรถ แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน ทั้งนี้ เมื่อนำตัวนายทวีปไปตรวจปัสสาวะ พบว่ามีฉี่สีม่วง

.

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา "จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และเสพยาบ้า" ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่จัน เพื่อสอบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป